Anthony Eaton ผู้เขียนหนังสือที่ดีที่สุด นิยายขายดีที่สุดในโลก นิยายอิงประวัติศาสตร์

นักเขียนนิยายประวัติศาสตร์ที่เก่งมากที่สุด

About Me

Here are some things that you should know about me.

Anthony Eaton

Writer
ยินดีที่ได้รู้จักสำหรับนักอ่านทุกท่าน ตัวผมมีชื่อว่า แอนโธนี อีตัน ผมเกิดในปี 1972 ในประเทศออสเตียเลีย ชีวิตของตัวผมหลังจากที่ได้เติบโตขึ้นได้ไปทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศ ซึ่งทำหน้าที่เป็น วรรณกรรม และ ครูสอนการแสดง เป็นเวลาไม่ต่ำกว่าแปดปีแล้วด้วยกัน gclub มือถือ แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้ลาออก แล้วมุ่งหน้าทำตามความฝันของผมให้เป็นจริง โดยการเป็นนักเขียนนวนิยาย แล้วมีผลงานออกมาให้นักอ่านชื่นชอบมากมายแล้วหวังว่าจะมีคนค่อยติดตามผลงานของผมอยู่ในปัจจุบัน

รางวัลหนังสือ

ปี 2009 รางวัลสภาหนังสือสำหรับเด็ก (ที่มีเด็กอ่านกันมากที่สุด)

ปี 2006 รางวัลวรรณกรรมออสเตรเลียจากมือนายกรัฐมนตรี

ปี 2006 รางวัลเก็งกำไรหนังสือยอดเยี่ยมแห่งปี

ปี 2002 รางวัลสภาเด็กหนังสือของออสเตรเลีย

ปี 2005 ได้รับรางวัลประสานเสียง

ปี 2005 ได้รับรางวัลออสเตียแอนตาร์กสมาคมมศิลปะ

สนับสนุนการให้ข้อมูลโดย

Recent Posts

ผลงานหนังสือ

รีวิวเนื้อเรื่องเบื้องต้น

Quiet continue

เงียบเป็นต่อ หนังสือ ที่นักเขียนผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารอธิบายถึงความเงียบ

ปัจจุบันหนังสือเกี่ยวกับพัฒนาตัวเองมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน ด้านการพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเอง ด้านการทำงานอยู่ร่วมกันในองค์กร ทั่วไปแต่ละเล่มก็จะมีจุดเด่นของตัวเอง อีกหนึ่งเล่มที่เหมาะมากหากว่าเรากำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าระดับปฏิบัติการ หรือ ขึ้นเป็นใหญ่กว่านั้นก็ตาม แล้วถ้าเราเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งเราจะทำอย่างไรแนะนำอ่านหนังสือเล่มนี้เลย เงียบเป็นต่อ หนังสือเล่มดังกล่าวชื่อว่า เงียบเป็นต่อ หนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับคนที่เดิมทีเป็นคนที่มีนิสัยเก็บตัว ไม่ค่อยพูดค่อยจาเท่าไร เพราะหนังสือเล่มนี้จะเป็นการเล่าถึงวิธีการสื่อสารของตัวเองต่อองค์กรที่แม้ว่าเราจะเป็นคนเงียบๆ มากก็ตาม คนเงียบก็สามารถสื่อสารได้ คนที่ไม่ค่อยพูด สิ่งหนึ่งที่กังวลมากหากขึ้นตำแหน่งที่สูงขึ้นเป็นระดับหัวหน้าขึ้นไปก็คือ การสื่อสารทั้งจากตัวเองไปสู่คนอื่น (ลูกน้องตามสายงาน) หรือ การรับสารจากเบื้องบนแล้วนำสารนั้นมาถ่ายทอดอีกที หากกลัวว่าการสื่อสารของเราจะไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากเราเป็นคนเงียบ หนังสือเล่มนี้ช่วยได้เยอะ หนังสือเขียนจากผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสารที่จะทำให้เรารู้ว่าความเงียบที่อาจจะมองว่าเป็นจุดอ่อนของการสื่อสาร เราสามารถพลิกให้กลายเป็นจุดแข็งของการสื่อสารได้เหมือนกัน รายละเอียดภายในหนังสือ หนังสือเล่มนี้ส่วนเนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน หนึ่งจะเป็นการบอกเล่าถึงการเป็นคนเก็บตัว ที่อาจจะมองว่าเป็นจุดอ่อน แต่เล่มนี้จะแสดงอีกแง่มุมหนึ่งที่จะทำให้เรารู้ว่า คนมีนิสัยแบบนี้ก็สามารถเอามาเป็นจุดแข็งได้ด้วย รวมถึงบอกจุดอ่อน อุปสรรค และวิธีการแก้ไขจุดอ่อนดังกล่าวให้ดีขึ้นด้วย สองเป็นการขยายความของนิสัยดังกล่าวแต่จะมองในมิติการทำงานร่วมกับคนอื่น ครอบครัว ชีวิตคู่ จะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เล่าไปจนถึงการรับมือกับลูกน่าจะเป็นหลักในการปรับพฤติกรรมตัวเองได้มากทีเดียว ส่วนสุดท้ายอันนี้ก็สำคัญเหมือนกัน คนเงียบเก็บตัวมักจะเจอปัญหาว่า บางครั้งเหมือนกับไร้ตัวตนในสังคมไป เพราะไม่ค่อยได้พูดเลยไม่ได้ยินเสียง หนังสือส่วนนี้เลยขอพูดภาพรวมว่าเราจะทำอย่างไร เพื่อให้สังคมรอบตัวเราเห็นตัวต้นของเรามากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการสื่อสารของเราต่อไปด้วย สรุปหนังสือ เงียบเป็นต่อ เป็นหนังสือที่ขายดีมากจากต่างประเทศ การแปลมาภาคภาษาไทยแบบนี้บอกเลยว่าใครที่เป็นคนเก็บตัว ควรจะหามาอ่านโดยพลัน […]

Writers career

ความท้าทายของอาชีพนักเขียนในปัจจุบัน

ในขณะที่เป็นนักเขียนก็มีข้อได้เปรียบที่สำคัญ มันยังมีความท้าทายของตัวเองที่ไม่เหมือนกับสายอาชีพอื่นๆ ความท้าทายบางอย่างสามารถทำให้ชีวิตแทบจะไปต่อไม่ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ดีที่จะเหล่านักเขียนมักจะทำงานกันเป็นกลุ่มคอยให้คำปรึกษาระหว่างกัน แล้วอะไรคือความท้าทายที่พวกเขาต้องเจอกันบ้างด้านล่างนี้คือหัวข้อสำคัญที่นักเขียนส่วนใหญ่จะต้องได้สัมผัสกันแทบทั้งสิ้น 8 เหตุผลความท้าท้ายของนักเขียน 1.ขาดความคิดสร้างสรรค์ คุณแน่ใจมากว่าคุณสามารถเขียนบทความนั้นได้ แต่คุณไม่มีความคิดหรือประเด็นที่จะเขียนออกมาจนจบมักเป็นเรื่องที่ทำให้น่าปวดหัวสุดๆ มันเป็นเรื่องเกิดขึ้นกับทุกคน โชคดีที่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สุดสำหรับพวกเขา 2.การขาดประสิทธิภาพ นี่อาจเป็นปัญหาใหญ่ของตัวเอง โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเด็กๆ มันก็คงยากที่จะมุ่งสมาธิไปที่การทำงาน 3.ขาดความมั่นใจ นี่คือปัญหาที่อันตรายที่สุดที่สามารถทำให้อาชีพนักเขียนจบลงได้ ไม่สำคัญว่าคุณมีทักษะหรือมีประสบการณ์มากเพียงใด คุณจะไม่ไปไกลจนกว่าคุณจะมั่นใจในสิ่งมีในตัวเอง 4.การแข่งขันมากเกินไป วันนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่ออินเทอร์เน็ตให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ผู้คนยอมจ่ายเงินให้กับบริการที่ถูกกว่า บางครั้งก็เกี่ยวเนื่องจากมาตรฐานค่าครองชีพที่แตกต่างกัน 5.ปัญหาด้านการเงิน ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่ฉันต้องเผชิญกับอาชีพนักเขียนคือเงิน ทุกอย่างมีต้นทุน มีค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่ต้องใช้เงินในทันที และไม่ใช่ว่าทุกงานที่ได้รับจะให้เงินที่พอกับค่าใช้จ่าย 6.พักผ่อนไม่เพียงพอ มันเป็นงานที่เผาพลาญเวลาในชีวิตเป็นอย่างมาก คุณจะต้องใช้เวลาอยู่หน้ากระดาษ คอมพิวเตอร์อยู่เกือบตลอดทั้งวัน นักเขียนส่วนใหญ่นอนวันละ 6 ชั่วโมงต่อวันกับ ถ้าบางวันได้นอน 8-9 ชั่วโมง ต่อวันจะช่วยให้ยิ่งมีความสนใจในทำงานได้มากขึ้น 7.ความเหงา อย่างที่บอกในหัวข้อที่แล้วว่ามันเป็นงานทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาว่าง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่ทำให้นักเรียนรู้สึกเหงา บางคนถึงกับกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาเลยด้วย ไม่ว่างานของคุณจะสำคัญแค่ไหนก็ตามให้ ขอแนะนำว่าควรจะออกไปพักสมองกับเพื่อนๆ เป็นครั้งคราว 8.ลูกค้าเอาแต่ใจ คนประเภทนี้พวกเขามีอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นสายอาชีพไหนเพราะหลายคนมีแนวคิดว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” มักชอบจะเข้ามาข่มบริษัทต่างๆ ว่ามันเป็นบุญคุณที่พวกเขามาใช้บริการ ดังนั้นอย่าไปใส่ใจมากเพราะมันจะทำให้จิตใจของคุณย่ำแย่ ทำให้คุณสงสัยในตัวเอง […]

Youtility BOok

การตลาดที่ดี เริ่มต้นที่ การให้ หนังสือดีๆ ที่ควรต้องอ่าน

การบริหารธุรกิจไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ส่วนหนึ่งขององค์กรที่มีความสำคัญมากก็คือ งานด้านการตลาด เพราะมันคือหัวใจดวงหนึ่งขององค์กรในยุคนี้เลย หากการตลาดดี มาแรง ย่อมทำให้แบรนด์ขององค์กรนั้นแข็งแกร่งมากขึ้น เข้าไปอยู่ในหัวใจลูกค้ามากขึ้นด้วย นักการตลาดจึงต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ๆ มานำเสนอมากขึ้น หนังสือการตลาด ต้องอ่าน ด้วยความสำคัญระดับนี้ทำให้นักการตลาดตั้งแต่ระดับมือสมัครเล่น ไปจนถึงมืออาชีพองค์กรเล็ก กลาง ใหญ่ ต้องมีการปรับตัวมองหาหนังสืออ่านกันอยู่ตลอดเวลาเพื่อศึกษาองค์ความรู้ใหม่ทางด้านการตลาด จะได้นำมาปรับใช้ได้ ตอนนี้มีหนังสือการตลาดเยอะแยะมากมายในท้องตลาด ทั้งแบบวิชาการจ๋ากับแบบกึ่งวิชาการอ่านสนุก เพลินได้ทั้งสาระและความบันเทิงไปควบคู่กัน เราขอแนะนำสักหนึ่งเล่ม การตลาดที่ดี เริ่มต้นที่การให้ หนังสือการตลาดเล่มนี้มาแรงมากชื่อว่า การตลาดที่ดีเริ่มต้นที่การให้ เขียนโดย เจย์ เบออร์ แปลโดย ศศิพันธ์ โควาวิเศษสุด หนังสือราคาประมาณเกือบสองร้อยบาท (ไม่แพงนะสำหรับองค์ความรู้ด้านใน) หนังสือมีจำนวน 180 หน้าใช้เวลาอ่านได้เพลินๆ ไม่เกินสัปดาห์ก็น่าจะจบแล้ว เนื้อหาพูดถึงอะไร เนื้อหาด้านในพูดถึงเรื่องอะไร เค้ากำลังจะเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีของนักการตลาดยุคใหม่ที่จะต้องไปต่อสู้กับแบรนด์อื่นบนสนามการค้าที่ชื่อว่า “โลกออนไลน์” แน่นอนว่าบนสนามรบแห่งนั้นการตลาดต้องเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมกับที่เราเคยทำบนโลกออฟไลน์ ตัวหนังสือบอกกับเราเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการต่อสู้บนสนามรบแห่งนี้ภายใต้คีย์เวิร์ดคำว่า Youtility เป็นคำใหม่ที่เกิดขึ้นบนวิถีนักการตลาด เค้าบอกว่าหากเราสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นกับลูกค้าได้ทุกอย่างจบเลย เราจะได้ลูกค้ามาเป็นขาประจำให้กับสินค้าของเราพร้อมกับบอกต่อแบบไม่ต้องลงแรง รายละเอียดในหนังสือ มองลึกลงไปในหนังสือ เค้ากำลังจะแนะแนวทางการสร้าง Youtility ของแบรนด์เราเองให้เกิดขึ้นจนกลายเป็นพลังส่งต่อไปยังผู้บริโภคด้วยหนังสือจะแบ่งออกเป็น […]

Game Book online

รู้จักชีวิตที่เป็นดั่งเกม ด้วยหนังสือ หากชีวิตเป็นดั่งเกม

หนังสือแนวการพัฒนาตัวเองเข้ามาในบ้านเราเยอะมาก คนนั้น คนนี้แปลกันเต็มไปหมด บางเล่มก็ไม่ดี บางเล่มก็ดีมาก อ่านจบรู้สึกเกิดพลังในการขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้าเลย หนังสือแนะนำวันนี้ก็เช่นกัน ชื่อหนังสือก็น่าสนใจ ด้านในก็น่าสนใจ เชื่อว่านี่จะเป็นหนึ่งในหนังสือพัฒนาตัวเองเล่มโปรดของใครหลายคน หากชีวิตเป็นดั่งเกม นี่ไงล่ะ กติกา หนังสือเล่มนี้แปลชื่อไทยค่อนข้างยาวทีเดียว หากชีวิตเป็นดั่งเกม นี่ไงล่ะ กติกา เป็นชื่อหนังสือของเราวันนี้ หนังสือเขียนโดย Cherie Carter-Scott แปลโดย พรเลิศ อิฐฐ์ และ วิกันดา พินทุวชิราภรณ์ หนังสือมีความหนาประมาณเกือบสองร้อยหน้า ใช้กระดาษปอนด์ในการจัดพิมพ์ทำให้อ่านสบายตา จับเปิดหน้ากระดาษไม่ขาดง่าย เนื้อหาของหนังสือจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวแนวคิดในการใช้ชีวิตที่เราอาจจะรู้ หรือ ไม่รู้มาก่อน บางคนรู้แต่เลือกจะมองข้ามไปก็มีหนังสือเล่มนี้จะมีข้อความกระตุกความคิดของเราให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง กฎ 10 ในการเล่นเกมชีวิต หนังสือเล่มนี้ผู้เขียน จะบอกเล่าเรื่องราวของการเล่น เกมชีวิต (หมายถึงการดำเนินชีวิต) อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ทำอย่างไรจะล้มแล้วลุกขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง ผ่านกฎทั้งหมด 10 ข้อด้วยกัน กฎแต่ละข้อก็จะแทนตัวแต่ละบทไปพร้อม เรื่องราวภายในบทได้แก่ กฎข้อที่ 1 คุณจะได้รับร่างกาย เมื่อเราเปิดเข้าไปก็จะพบข้อความ เรื่องราวต่างๆ ที่แสดงออกถึงแนวคิดจากนักคิด นักเขียน […]

Harry Potter Book

บทเรียนชีวิต จากแฮร์รี่ พอตเตอร์ หนังสือเล่มสำคัญของเหล่ามักเกิ้ล

วัยรุ่นช่วงยุค 90 จะเติบโตมาพร้อมกับอะไรที่เป็นตำนานหลายอย่าง หนึ่งในของวิเศษวัยรุ่นยุคนั้นต้องผ่านมา นั่นคือ การได้อ่านหนังสือวรรณกรรมเยาวชนชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ เหล่าพ่อมดแม่มดในโลกเวทย์มนต์ได้ร่ายเวทย์จนทำให้ใครหลายคนหันมารักการอ่านได้ นอกจากความสนุกสนานในโลกเวทย์มนต์แล้ว วรรณกรรมเรื่องนี้ยังสอดแทรกแนวคิดจนทำให้คนอ่านได้ตกผลึกเรื่องราวดีๆ มากมาย อย่างล่าสุดได้มีการหยิบวรรณกรรมชุดนี้มาถอดบทเรียนชีวิตอีกครั้งหนึ่ง บทเรียนชีวิต จากแฮร์รี่ พอตเตอร์ แม้จะเป็นเรื่องราวของเด็กชายผู้มีแผลเป็นสายฟ้าในโลกเวทย์มนต์ แต่การผจญภัยของเค้าและผองเพื่อนก็สร้างความประทับใจ ผสมผสานเป็นบทเรียนชีวิตสอนใจคนอ่านได้มากทีเดียว ล่าสุดหนังสือชื่อว่า บทเรียนชีวิต จากแฮร์รี่ พอตเตอร์โดยผู้เขียน Jill Kolongowski แปลโดย โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล ได้เดินทางมาถึงชุมชนเหล่ามักเกิ้ลแล้ว ราคาเปิดตัวมาไม่แพงเท่าไร เพียงแค่ 160 บาทเท่านั้น (หากซื้อออนไลน์) ข้างในมีอะไรบ้าง หนังสือเล่มนี้จะถอดบทเรียนชีวิตของเด็กหนุ่มนามว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ การผจญภัยตั้งแต่เด็กก้าวเข้าสู่วัยหนุ่ม จนถึงวัยผู้ใหญ่เข้าต้องพบพานกับเรื่องอะไรบ้าง สุข เศร้า เหงา ซึม ต่อสู้ ประทับใจ โดยจะบอกเล่าแนวคิดเรื่องราวจากเหตุการณ์ต่างๆ ในหนังสือตลอด 7 เล่ม ไม่เพียงแค่นั้นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จะมาบอกความหมายของเวทมนตร์บทต่างๆ ที่เราเคยกวัดแกว่งไม้กายสิทธิ์กันว่ามันมีความหมายอย่างไร ถึงเวลาไปเที่ยวฮอกวอตส์กันอีกรอบแล้ว การบอกเล่าผ่านเวทมนตร์ เมื่อกี้เกริ่นไปว่า […]

read novels

เทคนิคการอ่านหนังสือนิยายให้สนุกสนาน และคุ้มค่า

การอ่านหนังสือนิยายเป็นกิจกรรมที่สามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ได้อย่างงายๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะขนาดของหนังสือนิยายส่วนใหญ่จะเป็นเล่มขนาดเล็ก พกพาสะดวก สามารถหยิบขึ้นมาอ่านได้ทุกที่ตามต้องการ เราจึงมักเห็นว่าคนจำนวนไม่น้อยนิยมพกหนังสือนิยายไปไหนต่อไหนมากมายเพื่อหวังว่าจะสามารถทำฆ่าเวลาได้ แต่สำหรับอีกหลายคนที่ต้องการอ่านนิยายให้สนุกและรู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแต่ยังไม่รู้ว่าควรต้องอ่านแบบไหนดีลองมาดูเทคนิคการอ่านหนังสือนิยายให้สนุกและคุ้มค่ากันดีกว่า เทคนิคง่ายๆ ในการอ่านหนังสือนิยายให้สนุกและคุ้มค่า เลือกซื้อนิยายที่ตนเองชอบ – นิยายที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ได้หมายความว่าจะเป็นนิยายที่ทุกคนชอบเสมอไป ดังนั้นอย่าตัดสินใจเลือกซื้อนิยายที่ถูกมองว่าโด่งดังอย่างเดียว ให้เลือกซื้อนิยายที่ตนเองรู้สึกว่าชื่นชอบ วิธีการตรงนี้ให้ลองอ่านหน้าปก อ่านปกหลัง หรือหากบางร้านสามารถเปิดเข้าไปดูเนื้อหาคร่าวๆ ได้ก็ลองเปิดดูถ้าชอบก็ตัดสินใจซื้อมาแบบนี้ยังไงก็คุ้มค่า เลือกอ่านเวลาที่ตนเองว่างจริงๆ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหามากที่สุด – การเปิดอ่านเป็นพักๆ บางครั้งอาจทำให้เนื้อหาที่อ่านสับสน จดจำเนื้อเรื่องก่อนหน้าไมได้ รวมไปถึงสมองของเราไม่ได้จดจ่อกับการอ่านอย่างจริงจังทำให้บ่อยครั้งรู้สึกว่าการอ่านนิยายเล่มนี้ไม่สนุก ลองเปลี่ยนตนเองใหม่ให้เลือกอ่านตอนที่ว่างจริงๆ เพื่อจะได้ตั้งใจอ่านกับเนื้อหาในนิยายให้มากที่สุด มีเวลาอ่านรวดเดียวได้ยิ่งดี – การอ่านนิยายถ้าจะให้สนุกสามารถอ่านรวดเดียวไปจนจบได้เลยจะเป็นอะไรที่ยอดมาก พอตรงไหนไม่เข้าใจก็ย้อนกลับมาอ่านใหม่จะทำให้รู้สึกว่านิยายเล่มนี้มีอะไรน่าสนใจให้ได้ศึกษาอีกไม่น้อย ไม่มีสิ่งรบกวนจากภายนอก – หลักการอ่านนิยายให้เข้าใจ สนุกสนานกับเนื้อเรื่องมากที่สุดต้องไม่มีสิ่งรบกวนใดๆ ทั้งสิ้นอยู่รอบข้าง อาทิ เสียงวิทยุ โทรทัศน์ เสียงคนคุยกัน และอื่นๆ อีกมากมาย แนะนำว่าให้เลือกหาสถานที่สงบๆ ในการอ่านนิยาย เช่น ห้องนอนเย็นๆ , สวนสาธารณะร่มรื่นเงียบๆ แบบนี้จะทำให้การอ่านนิยายสนุกขึ้นอีกหลายเท่าและรู้สึกคุ้มค่าที่ได้อ่านด้วย อย่าพึ่งคาดหวังความสนุกมากเกินไป – การที่คนเราคาดหวังสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องดีแต่อย่าคาดหวังจนเกินไปนัก หากไม่ได้เป็นอย่างที่คิดจะทำให้รู้สึกไม่คุ้มค่าเปล่าๆ นิยายเองก็เช่นเดียวกันให้คาดหวังความสนุกแต่พองามแล้วจะรู้สึกว่ามันสนุกกว่าที่คิดเยอะเลย อีกอย่างถึงไม่สนุกมากเราก็ยังรู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินทีเสียไปไมได้รู้สึกแย่เสียทีเดียว